อุปกรณ์ เทคโนโลยี เกษตร IoT
-
เทคโนโลยี เกษตร เครื่องคว้านเมล็ดลำไยแบบ 2 หัวคว้าน วางระบบ smart farm IoT เกษตรอินทรีย์ ออร์แกนิค organic
การประดิษฐ์เครื่องคว้านเมล็ดลำไยแบบ2 หัวคว้าน เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้แปรรูปอาหารจากลำไย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเข้าช่วย หรือการใช้เครื่องจักรทดแทนแรงงานคนเพื่อช่วยลดปัญหาในการผลิต เช่น ลดเวลาการผลิต เพิ่มคุณภาพให้ได้ตามมาตรฐาน สะอาด และปลอดภัย ซึ่งการออกแบบและการสร้างเครื่องคว้านเมล็ดลำไยแบบ 2 หัวคว้าน สามารถนำไปใช้งานได้จริงและสามารถที่จะพัฒนาต่อยอดได้ต่อไปอีก รวมถึงยังช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อันจะนำไปสู่เชิงพาณิชย์ได้ หลักการทำงานและจุดเด่น • มี 2 หัวคว้าน โดยการเจาะคว้านจะเคลื่อนที่เข้าเจาะคว้านพร้อมกันทั้ง 2 หัว และถอยออกมาพร้อมกับดึงเมล็ดของลำไยออกมาด้วย และเมล็ดของลำไยจะถูกดันเอาเมล็ดทิ้งออกไปในรางเพื่อแยกออกจากเนื้อและเปลือกลำไยโดยอัตโนมัติ ส่วนเนื้อและเปลือกลำไยจะติดไปกับเบ้าจับแล้วจะถูกเขี่ยออกด้วยระบบกลไกของเครื่อง ทำให้ส่วนเนื้อและเปลือกลำไยตกแยกออกไปที่รางรับอีกทาง• สามารถคว้านเมล็ดลำไยได้พร้อมกันครั้งละ 2 ผลคว้านเมล็ดลำไยได้เร็วถึง 30 กิโลกรัมต่อชั่วโมง หรือ 240 กิโลกรัมต่อ 8 ชั่วโมง เร็วกว่าแรงงานคนถึง 8 เท่า• เนื้อลำไยที่ได้จากการคว้านจะมีลักษณะกลมเนื้อไม่ฉีกขาด• มีชุดจานหมุนลำเลียงผลลำไยเจาะรูโดยรอบจำนวน16 รู เพื่อให้ผลลำไยเข้าไปได้รูละ 1 ผล การหมุนของจานจะสัมพันธ์กับจังหวะการหมุนของชุดป้อนหรือชุดเบ้าจับลำไย• มีชุดท่อส่งลำไยกลับไปยังถาด เพื่อป้องกันกรณีลำไยล้นรางหรือคนป้อนไม่ทันผลลำไยก็จะกลิ้งกลับลงมาที่เดิมประกอบกับชุดเบ้าจับผลลำไยสามารถปรับขนาดและขยาย (ผลเล็ก-ผลโต) ได้ตามรูปทรงของผลลำไย• ใช้แรงงานควบคุมเครื่องจำนวน 1 คน ราคาเริ่มต้นที่ 85,000 บาท/เครื่องรางวัลที่ 2 การประกวดสิ่งประดิษฐ์คิดค้นทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประจำปีงบประมาณ 2553 เจ้าของสิ่งประดิษฐ์นายเกรียงไกร ธารพรศรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ล้านนาภาคพายัพเชียงใหม่ เลขที่ 128 หมู่ 1 ถนนห้วยแก้วตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50300
-
เทคโนโลยี เกษตร สว่านเจาะปาล์ม วางระบบ smart farm IoT เกษตรอินทรีย์ ออร์แกนิค organic
เมื่อปาล์มมีอายุมากจะให้ผลน้อยลง ไม่คุ้มกับการลงทุนจำเป็นต้องโค่นทำลายเพื่อปลูกใหม่ การทำลาย (โค่น) ที่ทำกันในปัจจุบันใช้วิธีโค่นด้วยเลื่อยยนต์ ดันด้วยรถแทรกเตอร์ ข่มด้วยรถแบกโฮ วิธีเหล่านี้ทำได้ยาก ลงทุนมากและใช้เวลานาน การใช้ยาฆ่าก็เป็นวิธีการหนึ่งที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน โดยทั่วไปคือขึ้นไปหยอดยาที่ยอด วิธีนี้ทำได้แต่ยากและเสี่ยงมาก ผู้ประดิษฐ์จึงคิดหาวิธีที่ทำได้ง่ายกว่าและไม่เสี่ยง โดยคิดเครื่องมือเจาะบริเวณโคนลำต้นของปาล์มและใช้ยาหยอดในรูที่เจาะเข้าไป ดังนั้น การประดิษฐ์ “สว่านเจาะปาล์ม”เพื่อหยอดยาฆ่าปาล์มจะทำให้ปาล์มตายยืน ตายเร็ว และตายเรียบโดยไม่ต้องขุดข่มถมปรนขนย้ายให้ลำบากอีกต่อไป หลักการทำงานและจุดเด่น • สามารถเจาะได้รวดเร็ว ใช้เวลาประมาณ 1 นาทีต่อปาล์ม 3 ต้น• มีเกียร์บังคับให้ดอกสว่านหมุนเร็ว ช้า หรือให้หยุดได้• มีคันเร่งพิเศษเพื่อเร่งหรือเบาเครื่องยนต์ให้มีกำลังตามที่ต้องการได้สามารถบังคับให้เจาะลึกหรือเอียงตามที่ต้องการได้ เพื่อประโยชน์ในการหยอดยาป้องกันยาไหลออกจากลำต้น• เครื่องมือนี้สามารถเคลื่อนย้ายไปยังจุดต่อไปได้ง่ายไม่ต้องใช้แรงมาก เพราะออกแบบให้วางบนรถเข็น• มีเพลา 2 เพลา คือ เพลากลวง และเพลาตัน เพลากลวงสามารถบังคับเพลาตันให้หมุนตามได้และขณะที่ดอกสว่านกำลังหมุนสามารถดึงเข้าและออกจากรูเจาะเพื่อคายขี้สว่านออกได้ง่าย จึงสามารถทำงานได้สะดวกขึ้น ราคาเริ่มต้น 10,000 บาท/เครื่องรางวัลที่ 1 การประกวดสิ่งประดิษฐ์คิดค้นทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประจำปีงบประมาณ 2550 เจ้าของสิ่งประดิษฐ์นายฉกาจ ชัยภัทรกุล เลขที่ 35/4 หมู่ 4 ตำบลท่างิ้ว อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80280
-
เทคโนโลยี เกษตร ชุดเพิ่มประสิทธิภาพปั๊มออกซิเจนสำหรับระบบไฮโดรโพนิกส์ วางระบบ smart farm IoT เกษตรอินทรีย์ ออร์แกนิค organic
เนื่องจากผู้ประดิษฐ์เป็นผู้ปลูกผักไฮโดรโพนิกส์ โดยผักที่ปลูกส่วนมากเป็นผักสลัดพันธุ์ต่างประเทศ ซึ่งปลูกแล้วขายได้ราคาดี แต่ผักพวกนี้ต้องการอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ10-20องศาเซลเซียสในขณะที่อากาศบ้านเรามีอุณหภูมิอยู่ที่ 30 – 40 องศาเซลเซียส ทำให้ผักที่ปลูกโตช้าเป็นโรคง่ายและไม่ค่อยได้คุณภาพ ผู้ปลูกที่มีทุนมากแก้ปัญหาด้วยการสร้างโรงเรือนอีแว๊ปมาใช้ทำการปลูก ซึ่งมีต้นทุนสูงมากทั้งค่าโรงเรือนและค่าไฟฟ้าต่อเดือน เวลาหน้าหนาวก็ต้องเปิดให้ระบบทำงาน เพราะโรงเรือนเป็นโรงเรือนปิดด้วยพลาสติกใส อีกวิธีหนึ่งของผู้ปลูกที่มีทุนคือสร้างชิลเลอร์มาใช้ระบายความร้อนของสารละลายและธาตุอาหาร ในช่วงอากาศร้อนก็สามารถปลูกผักได้ดี แต่ราคาชิลเลอร์และค่าไฟฟ้าต่อเดือนก็ยังสูงอยู่มาก (ค่าชิลเลอร์ 50,000 -150,000ค่าไฟ10,000 -20,000บาท)เป้าหมายของโครงการ คือ สร้างเครื่องมือที่ช่วยระบายความร้อนให้สารละลายธาตุอาหารได้ดี และมีราคาถูกกว่าเครื่องมือที่กล่าวมาแล้ว ทั้งค่าเครื่องมือ ค่าไฟฟ้าและยังใช้งานได้หลายหน้าที่ หลักการทำงานและจุดเด่น • เป็นเครื่องมือที่ช่วยลดอุณหภูมิของสารละลายที่ใช้ปลูกผักได้ดี• เป็นเครื่องมือช่วยเพิ่มออกซิเจนให้กับสารละลายธาตุอาหาร ซึ่งจำเป็นสำหรับผักที่ปลูกด้วยระบบไฮโดรโพนิกส์• ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ดีกว่าเครื่องมือที่มีจุดประสงค์เหมือนกัน เช่น ชิลเลอร์ โรงเรือนอีแว๊ป เป็นต้น• นำไปใช้ธุรกิจประมงได้• นำไปใช้กวนผสมปุ๋ย• อุปกรณ์ส่วนมากผลิตจากของเก่าหรือของรีไซเคิลได้ ราคาเริ่มต้นที่ 45,000 บาท/เครื่องรางวัลเชิดชูเกียรติ การประกวดสิ่งประดิษฐ์คิดค้นทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประจำปีงบประมาณ 2552 เจ้าของสิ่งประดิษฐ์นายอรรถพร สุบุญสันต์เลขที่ 77/7 หมู่ 3 ถนนสุพรรณบุรี-กรุงเทพฯ ต.สามเมืองอ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา 13230
-
เทคโนโลยี smart farm IoT โดรนสำหรับ ภาคการเกษตร วาง ระบบ คู่มือ การใช้
ท้ังนี้ โดรนสำหรับ ภาคการเกษตรอาจแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ โดรนสำรวจพื้นที่ (Data-mapping drone) เป็นเสมือน “Bird-eyeview” ของเกษตรกรที่ถูกออกแบบเพื่อการใช้งานเฉพาะทาง (Commercial-grade) โดยใช้เทคโนโลยีสูงกว่าโดรนฉีดพ่น เพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ก่อนจะนำข้อมูลดิบมาประมวลผลด้วยโมเดลทางการเกษตรเฉพาะ ซึ่งโดรนประเภทนี้มักถูกนำมาใช้ร่วมกับเซ็นเซอร์ที่เชื่อมโยงกับ IoT เพื่อเก็บข้อมูล Big data เช่น การสำรวจพื้นที่เพาะปลูก การตรวจสุขภาพของพืช ตลอดจนการวางแผนเพาะปลูก โดรนฉีดพ่น (Spraying drone) เช่น โดรนพ่นสารเคมีหรือปุ๋ย ซึ่งเป็นอากาศยานไร้คนขับในกลุ่มผู้บรโภคทั่วไป (Consumer-grade)เนื่องจากไม่ต้องการความซับซ้อนในการเก็บข้อมูลหรือประมวลผลใดๆโดยโดรนฉีดพ่นมักถูกนำมาใช้เพื่อลดการพึ่งพาแรงงานมนุษย์ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อเกษตรกร และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของผลผลิต
-
เทคโนโลยี smart farm IoT ผลกระทบจาก โรคระบาด COVID-19 วาง ระบบ คู่มือ การใช้
โรคระบาด COVID-19 ที่เกิดขนึ้ ทั่วโลกจะเป็นแรงผลักดันให้ภาคเกษตรปรับตัวมาใช้ IoT มากขึ้น ความกังวลโรคระบาด COVID-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกจะเป็นแรงผลักดันให้ภาคเกษตรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้ IoT มาทดแทนการใช้แรงงานคน เพื่อลดโอกาสการสัมผัสและการติดต่อกันระหว่างมนุษย์ โดยบริษัทผู้ผลิตโดรน XAG ในเมืองกวางโจวของจีน ได้ออกมาเปิดเผยว่าในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2020 บริษัทสามารถขายโดรนทางการเกษตรได้มากถึง 4,000 เครื่อง เช่นเดียวกับบริษัท Yifei Technology ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายโดรนและหุ่นยนต์เกษตรที่คาดว่าปีนี้รายได้จะเติบโตเป็น 4 เท่าหรือมากกว่า 4.31 ล้านดอลลาร์ฯ จากผลของ COVID-19 นอกจากนี้ตลาดการพัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีทางการเกษตรในจีนที่เติบโตไปอย่างรวดเรว็ น้ัน ส่วนหน่ึงได้รบัการสนับสนุนจากทางการจีนภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะ 5 ปี (ฉบับที่ 13) ที่ให้เงินสนับสนุนจากส่วนกลางในการซื้อโดรนและอุปกรณ์ต่างๆ 20 ล้านดอลลาร์ฯรวมท้ังเงนิ กู้ดอกเบี้ยต่าและสนับสนุนค่าเช่าเครื่องมืออีกกว่า 14 ล้านดอลลาร์ฯ โดยทางการจีนต้ังเป้าให้เกษตรกรสามารถใช้โดรนได้อย่างแพรห่ ลายถึง 30,000 เครื่องในปี 2020 ปัจจุบันมี การนำอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned aerial vehicles: UAVs) หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “โดรน”(Drone) มาใช้ในฟังก์ชันทางการเกษตรมากขึ้น เนื่องจากมีขนาดเล็กและมีระบบการบินอัตโนมัติ จึงทำให้สามารถควบคุมการทำงานได้ง่าย สะดวก และมีความแม่นยำสูง โดยรายงานของ FAO ที่อ้างอิงข้อมูลจาก PwC (2016) ประเมินว่ามูลค่าทางธุรกิจของตลาดโดรนเชิงพาณิชย์ในภาคการเกษตรมีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 2 หรือ 3.24 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ รองจากโดรนที่ใช้ในงานโครงสร้างพื้นฐาน (รูปที่ 12) เช่นเดียวกับข้อมูลของ Markets and Markets รายงานว่ามูลค่าตลาดโดรนท่ัวโลกมีเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 31.4% ต่อปี จาก 1.2 พันล้านดอลลาร์ฯในปี 2019 เป็น 4.8 พันล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2025
-
เทคโนโลยี smart farm IoT เทคโนโลยี Big Data วาง ระบบ คู่มือ การใช้
เทคโนโลยี Big Data เทคโนโลยี Big Data เกิดจากความพยายามที่จะจัดการข้อมูลที่เกิดจากการใช้งานระบบสารสนเทศที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมหาศาล มีความหลากหลาย และมีลักษณะแบบไม่มีโครงสร้าง (unstructured)ส่วนหนึ่งของผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัย Leipzig ประเทศเยอรมนี (Ngonga, 2013) ปรากฏในภาพที่ 3บ่งชี้ว่า ปริมาณข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นจากผู้ใช้งานประเภทองค์กรทั่วโลกได้เพิ่มขึ้น 240 เท่า จาก 5 Exabytes เป็น 1222 Exabytes ระหว่างปี 2005 จนถึงปี 2014 ตามลำดับ การเติบโตดังกล่าวได้สร้างความซ้ำซ้อนและความยุ่งยากให้กับการจัดเก็บ วิเคราะห์ และสืบค้นข้อมูล เทคโนโลยี Big Data ได้เข้ามามีบทบาทในการประมวลผลข้อมูลโดยการจัดการข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบไม่มีโครงสร้างให้เป็นข้อมูลที่มีโครงสร้าง (Structured) นอกจากนี้ เทคนิคการวิเคราะห์ทางสถิติ วิทยาศาสตร์ทางข้อมูล (Data Science) และวิทยาการ Machine Learning ได้ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่มีขนาดมหาศาลและสังเคราะห์ความสัมพันธ์หรือค่าทางสถิติที่มีประโยชน์ต่อการตัดสินใจได้ Big Data จะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคตเพื่อจัดการข้อมูลที่รับจากโครงข่าย IoT