vitamin d วิตามินดี เสริม สร้าง ภูมิคุ้มกัน สุขภาพ สู้ โรค โควิด19 Covid19
มีการศึกษาหลายชิ้นที่ชี้ให้เห็นว่าการ เสริมวิตามินดีช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ ทางเดินหายใจเฉียบพลันลงประมาณ 12% ถึง 75% ซึ่งการศึกษาที่นำมาใช้ในการ วิเคราะห์รวมถึงการติดเชื้อในช่วงที่มีการระบาดของ H1N1 ในปี 2009 พบว่าการเสริมวิตามินดี ทำให้อาการลดลงและทำให้หายเร็วขึ้น โดยขนาดวิตามินดีที่ใช้มากกว่า 1000 IU19 แต่ประโยชน์ของวิตามินดีจะชัดเจนมากในผู้ป่วย ที่ขาดวิตามินดีหรือมีปริมาณวิตามินดีในเลือดต่ำกว่าปกติ
การเสริมสารอาหารหรือวิตามินในรูปแบบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปขนาดสูงนั้น ควรทำในกรณีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าขาดสารอาหารนั้นๆเท่านั้น เพราะการได้รับสารอาหารหรือวิตามินมากเกินไป อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ จึงควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญแต่การเสริมในรูปแบบของอาหารที่มีวิตามินแต่ละชนิดเด่นๆ สามารถทำได้ในระดับประชาชนและยังมีการศึกษาอีกว่าสารอาหารหลายชนิดที่มีในอาหารจะมีส่วนเสริมให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
นอกจากงานวิจัยที่ผ่านมาเกี่ยวกับการติดเชื้อในทางเดินหายใจที่สามารถนำมาปรับใช้กับการระบาดของโควิด-19 ปัจจุบันมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโภชนาการทั่วโลกได้ออกมาให้คำแนะนำในการบริโภคอาหารบางประเภทในสัดส่วนที่มากขึ้น ได้แก่
- นมและผลิตภัณฑ์จากนม
ในทางภูมิคุ้มกันวิทยาพบว่า ในน้ำนมมีสารที่ส่งเสริมภูมิคุ้มกัน เช่น immunoglobulinlactoferrin, lactalbumin และ glycopeptidesเป็นต้น โดย lactoferrin มีฤทธิ์ปรับภูมิคุ้มกันที่ส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ในภูมิคุ้มกันหลายชนิด เช่น lymphocytes และ macrophagesที่จะมีผลในการจดจำการติดเชื้อไวรัสนอกจากนั้นแล้ว lactoferrin ยังสามาถจับกับจุดที่ไวรัสผ่านเข้าเซลล์ ทำให้ไวรัสไม่สามารถผ่านเข้าเซลล์ได้ ส่วน α-lactalbumin อาจช่วยปรับการทำงานของแบคทีเรียดีในลำไส้ จึงมีผลช่วยให้ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีChinese Centre for Disease Control and Prevention’s (CDC) ร่วมกับ National Institute for Nutrition and Health, the Chinese Medical Doctor Association ได้ระบุว่าปกติ การบริโภคนมของจีนนั้นอยู่ในปริมาณต่ำอยู่แล้วจึงแนะนำให้ มีการบริโภคน้ำนมประมาณ 300 กรัม/วัน หรือเทียบเท่ากับ 37.5 กรัมของนมผง หรือ ชีส 30 กรัม ปริมาณดังกล่าวน่าจะมีประโยชน์ในการช่วยปรับให้ภูมิคุ้มกันของ ร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น ในกรณีของหญิงตั้งครรภ์หรือหญิงให้นมบุตร การบริโภคน้ำนมควรเพิ่มเป็น 500 กรัม หรือผลิตภัณฑ์นม 350 ถึง 500 กรัม ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีควรได้รับนมแม่จะดีที่สุด แต่หากไม่สามารถให้นมแม่ได้น้ำนมจากแหล่งอื่นก็สามารถใช้ได้ 21 อย่างไรก็ตามมีบางงานวิจัยพบว่านมมีสารก่อให้เกิดการแพ้ดังนั้นในผู้ที่แพ้ อาจเลือกรับประทานนมจากแหล่งอื่นได้ - อาหารที่มีโปรตีนสูง
โปรตีนเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน การบริโภคอาหารโปรตีนคุณภาพดีเช่น ไข่ ปลา และเนื้อแดงเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน - อาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ผัก ผลไม้สด ผลไม้ตระกูลเบอร์รีกระเทียมและหัวหอม เป็นต้น อาหารเหล่านี้อุดมไปด้วยวิตามินซี เอ และอี21 ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ- อาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้มมะขามป้อม กีวี่ บร็อกโคลี สตอเบอร์รีกะหล่ำดาว เกรปฟรุต แคนตาลูป กะหล่ำปลีกะหล่ำดอก
- อาหารที่มีวิตามินเอสูง เช่น ตับวัวมันหวาน ผักโขม แคร์รอต แคนตาลูป พริกมะม่วง ไข่ ถั่วดำ
- อาหารที่มีวิตามินอีสูง เช่น เมล็ด-ทานตะวัน อัลมอนด์ เนยถั่ว ถั่วลิสง ผักโขม จมูกข้าว น้ำมันทานตะวัน น้ำมันคำฝอย มะเขือเทศ
- อาหารต้านการอักเสบ
อาหารที่มีคุณค่าทางยาและอาหารสูง ที่เรียกว่า ซุปเปอร์ฟู้ด (superfood) เช่น ขมิ้นชันองุ่นดำและผลไม้ตระกูลเบอร์รี มะเขือเทศน้ำมันมะกอก ถั่ว ผักที่มีสีเขียวเข้ม มันหวาน ส้มชาเขียว ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี น้ำผึ้ง และปลา21มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน - อาหารที่มีวิตามินดีสูง
การศึกษาหลายชิ้นพบว่า การเสริมวิตามินดี สามารถลดความเสี่ยงของไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้หลักฐานที่สนับสนุนว่าวิตามินดีน่าจะมีส่วนช่วยนสถานการณ์โควิด-19 คือ การเกิดการระบาดในช่วงหน้าหนาว เป็นช่วงที่ระดับวิตามินดีในเลือดต่ำ อัตราการตายของการติดเชื้อในทางเดินหายใจสัมพันธ์กับปริมาณวิตามินดีในร่างกาย20การกินอาหารที่มีวิตามินดีอาจช่วยได้ เช่น ทูน่าปลา เห็ด นม (รวมถึงนมอื่นๆ ที่เสริมวิตามินดี)ไข่ โยเกิร์ต ธัญพืชต่างๆ - อาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสีสูง
อาหารที่มีสังกะสีสูง เช่น เนื้อวัวย่างขนมพายเนื้อ เนื้อหมูสันติดกระดูก ไก่ ถั่วเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดฟักทอง โยเกิร์ตช่วยลดความรุนแรงการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ - อาหารปรับอารมณ์
ซอสแอปเปิ้ล ขนมปังโฮลวีท กรีกโยเกิร์ตใส่ขิงและข้าวโอ๊ต ชาขิง ชาเปปเปอร์มินท์ช่วยคลายกังวลจากความตึงเครียด ทำให้อารมณ์ดี - อาหารที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศ
เครื่องเทศหลายชนิดมีงานวิจัยช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน เช่น พริกไทย มีการศึกษาในอิตาลีปี 2019 พบว่า การบริโภคอาหารที่มีพริกไทยสัปดาห์ละ 4 วัน จะช่วยลดอัตราการตายส่วนการศึกษาในจีน ปี 2015 พบว่า การบริโภคพริกมีความสัมพันธ์กับการลดอัตราตายผู้ที่บริโภคเครื่องเทศเกือบทุกวันจะมีอัตราการตายลดลง 14% เมื่อเทียบกับผู้ที่บริโภคเครื่องเทศน้อยกว่า 1 วัน/สัปดาห์26 ซึ่งจากการศึกษาเหล่านี้ดำเนินการใช้เวลาหลายปี จึงมีความน่าเชื่อถือสูง ดังนั้นการเพิ่มเครื่องเทศในอาหารจึงจำเป็นต้องทำอย่างสม่ำเสมอ - อาหารที่มีผลต่อจุลินทรีย์ดีในลำไส้(โปรไบโอติกส์)
ฐานข้อมูล Cochrane ในปี 2015 พบว่าการบริโภคอาหารที่มีโปรไบโอติกส์ ช่วยลดอัตราการติดเชื้อทางเดินหายใจลดลงอย่างมีนัยสำคัญประโยชน์ของจุลินทรีย์โปรไบโอติกส์ในด้านภูมิคุ้มกันนั้นเป็นที่ยอมรับกันว่า จุลินทรีย์-โปรไบโอติกส์ สามารถกระตุ้นเซลล์ macrophage และเพิ่มการสร้าง IgA ที่ระบบทางเดินอาหารส่งผลต่อการหลั่ง cytokines ชนิดต่างๆ ได้ผ่านระบบภูมิคุ้มกันที่เยื่อเมือกหรือเยื่อบุ( mucosal immune response) นอกจากนี้จุลินทรีย์โปรไบโอติกส์ยังส่งผลต่อการทำงานของregulatory T cells ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปรับภูมิคุ้มกันของร่างกาย อาหารที่มีโปรไบโอ-ติกส์สูง ได้แก่ ข้าวหมาก เทมเป้ ผักดอง ทั้งนี้ควรเลือกอาหารที่ดองเอง
นอกเหนือจากการบริโภคอาหารที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว เอกสารฉบับนี้ยังได้รวบรวมสมุนไพรที่มีหลักฐานทางวิชาการในการเสริมภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบและต้านไวรัส (ไม่เพียงเฉพาะไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019) จำนวน37 ชนิด เพื่อพิจารณาเลือกใช้เป็นส่วนผสมหลักในอาหารที่บริโภคทุกวัน สมุนไพรเหล่านี้ควรบริโภคด้วยความหลากหลาย โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ในสมุนไพรบางรายการยังไม่มีรายงานความปลอดภัย ดังนั้นควรบริโภคในรูปแบบของอาหาร และหลากหลายจะปลอดภัยที่สุด