เกษตรอินทรีย์ การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์

วางระบบ เกษตรอินทรีย์ วัสดุ อุปกรณ์สำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ smart farmer ออร์แกนิค organic

วัสดุ อุปกรณ์สำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์

วัสดุและอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์มีหลายชนิดขึ้นอยู่กับลักษณะของการปลูกซึ่งสิ่งที่ควรคำนึงถึงคือ ควรมีราคาไม่สูงมากนัก แต่มีคุณภาพดีและหาซื้อได้สะดวก นอกจากนี้ ยังสามารถนำวัสดุสิ่งของเหลือใช้ต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ได้อีกด้วย

ปกติแล้ววัสดุและอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ประกอบด้วย

  1. โรงเรือน
    ในการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ในเชิงการค้าจำเป็นต้องใช้โรงเรือนสำหรับเพาะกล้า อนุบาลต้นกล้า และปลูก ซึ่งรูปแบบของโรงเรือนต้องเหมาะสม มีความแข็งแรง สามารถควบคุมภูมิอากาศภายในโรงเรือนให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของผักที่ปลูก นอกจากนี้ โรงเรือนยังสามารถป้องกันศัตรูพืชได้ พื้นที่ตั้งโรงเรือนต้องมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมคือมีการถ่ายเทอากาศดี อยู่ในที่โล่งแจ้งมีการคมนาคมที่สะดวก มีแหล่งน้ำอย่างเพียงพอและมีไฟฟ้า แต่สำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ในบริเวณบ้านนั้น ไม่จำเป็นต้องสร้างโรงเรือนขนาดใหญ่เนื่องจากเป็นการปลูกเพื่อไว้รับประทานกันเองภายในครอบครัว หรือเพื่อเป็นงานอดิเรกเท่านั้น เพียงแต่สร้างโครงมุ้งเพื่อป้องกันแมลงและการกระแทกของน้ำฝน
  2. ภาชนะและวัสดุที่ใช้ในการปลูก
    2.1 ภาชนะที่ใช้ในการปลูก ควรเป็นภาชนะที่เหมาะสมต่อระบบปลูกมีความแข็งแรง สะอาด และทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ผุกร่อน หรือไม่เป็นอันตรายต่อรากผักและสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ ควรมีราคาถูก หาซื้อได้ง่าย สะดวกต่อการติดตั้งและการใช้งาน
    2.2 วัสดุปลูก (Growing media) ต้องเป็นวัสดุที่เกี่ยวข้องกับการให้ออกซิเจน ธาตุอาหารและช่วยในการเจริญเติบโตของรากผัก ตลอดจนเป็นที่เกาะยึดค้ำยันต้นพืช ลักษณะของวัสดุปลูกที่ดี คือ เป็นที่เกาะยึดค้ำยันต้นผัก เป็นแหล่งสะสมน้ำและอาหาร และเป็นแหล่งที่ให้อากาศแก่ผัก
  3. ปุ๋ยหรือธาตุอาหารพืช
    จัดว่าเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เนื่องจากเป็นการจัดการในการให้ปุ๋ยเคมีต่าง ๆ เพื่อทดแทนธาตุอาหารที่มีอยู่ในดิน เพราะการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์เป็นการให้ผักที่ปลูกได้รับสารอาหารพืช หรือสารละลายธาตุอาหารพืช(nutrient solution) ที่ได้จากการนำธาตุอาหาร (แม่ปุ๋ย) ผสมกับน้ำ
  4. น้ำ
    น้ำที่ใช้ต้องมาจากแหล่งน้ำที่ดี มีคุณภาพดีและมีปริมาณเพียงพอต่อการปลูก ก่อนที่นำมาใช้ในการปลูกผัก ควรมีการนำตัวอย่างน้ำไปตรวจคุณภาพเสียก่อน
  5. ระบบไฟฟ้า
    ระบบไฟฟ้าใช้เพื่อเป็นต้นกำลังของพลังงานที่ขาดไม่ได้ ควรมีระบบไฟสำรองสำหรับบางช่วงที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า
  6. ปั๊ม
    ใช้สำหรับส่งและก่อให้เกิดการไหลเวียนของสารละลายธาตุอาหารพืชและให้ออกซิเจนแก่รากพืช
  7. เมล็ดพันธุ์ผัก หรือกล้าผักที่จะใช้ปลูก
    ควรเลือกพันธุ์ที่ตลาดต้องการ ต้นกล้ามีความสำคัญต่อการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์มาก เนื่องจากทำให้พืชสามารถเจริญเติบโตและตั้งตัวได้เร็ว เมล็ดพันธุ์ที่ดีต้องมีลักษณะตรงตามพันธุ์ มีเปอร์เช็นต์ความงอกสูง
  8. วัสดุและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมสารละลายธาตุอาหารพืช
    8.1 ถังใส่สารละลายธาตุอาหารพืช ขนาดของถังขึ้นอยู่กับระบบของการปลูกเพื่อกักเก็บสารละลายธาตุอาหารให้เพียงพอ โดยทั่วไปจะฝังถังใส่สารละลายธาตุอาหารพืชไว้ใต้ดิน เพื่อลดอุณหภูมิของสารละลายและช่วยลดการระเหยของสารละลายได้อีกด้วย
    8.2 ถุงมือ เพื่อใช้ในการเตรียม รักษาหรือควบคุมค่าความเป็นกรดด่าง(pH) เนื่องจากการปรับค่าความเป็นกรดด่างของสารละลายบางครั้งต้องใช้กรดเป็นตัวปรับเมื่อสารละลายมีความเป็นด่างมากเกิน
    8.3 เครื่องชั่ง วัด ตวง ใช้ตวงปริมาณปุ๋ยหรือสารอาหารที่ใช้ในการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์
  9. วัสดุผูกมัดหรือรองรับต้นผัก
    กรณีที่ผักมีความสูง เช่น มะเขือเทศ แคนตาลูป รากไม่สามารถยึดติดกับวัสดุปลูกได้ จำเป็นต้องมีวัสดุรองรับต้นผัก เพื่อช่วยให้พืชที่มีลำต้นสูง และมีผลผลิตที่มีน้ำหนัก สามารถทรงตัวอยู่ได้ ซึ่งวัสดุผูกมัด ได้แก่ เชือก ลวด ไม้ค้ำ และอาจมีสิ่งผูกมัดติดกับต้นผักซึ่งส่วนมากทำจากพลาสติก
  10. วัสดุ อุปกรณ์สำหรับควบคุมอุณหภูมิโรงเรือน สารละลายธาตุอาหารและวัสดุปลูกเนื่องจากประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงจึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ภายในโรงเรือน
  11. อุปกรณ์สำหรับการตรวจวัดและควบคุมสารละลายธาตุอาหารพืชเครื่องมือตรวจวัดค่าความเป็นกรดเป็นด่างของสารละลายธาตุอาหารพืช (pH meter) เครื่องมือตรวจวัดค่าการนำไฟฟ้าของสารละลายธาตุอาหารพืช (Electrical Conductivity meter)
  12. วัสดุอุปกรณ์และโรงเรือนบรรจุหีบห่อผลผลิตสำหรับการปลูกในเชิงการค้าจำเป็นต้องมีอุปกรณ์สำหรับการทำความสะอาด คัดขนาด บรรจุหีบห่อภายใต้โรงเรือนที่ดีก่อนขนส่งไปตลาด
  13. ห้องเย็นและระบบขนส่งที่สามารถควบคุมอุณหภูมิความชื้นสัมพัทธ์
    การผลิตในเชิงการค้าที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 1 ไร่ขึ้นไป จะมีอัตรากำลังในการผลิตที่สูง ควรมีห้องเย็น บรรจุภัณฑ์ และระบบขนส่งที่สามารถควบคุมอุณหภูมิความชื้นสัมพัทธ์ได้ เพื่อรักษาคุณภาพของผลผลิต โดยเฉพาะในกรณีที่แหล่งผลิตอยู่ไกลจากตลาดมาก