ในบรรดาผลิตภัณฑ์จากพืชซึ่งนำมาประกอบอาหารที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ เห็นจะเป็น เบอร์เกอร์ ไส้กรอกและนักเก็ต ขณะที่เบคอนปราศจากเนื้อหมูหรือเนื้อไก่กลับมีให้เลือกน้อยกว่าที่ผ่านมามีบางบริษัทที่ผลิตเบคอนปลอดเนื้อสัตว์โดยใช้ส่วนผสม เช่น โปรตีนแป้งสาลีผสมถั่ว หรือไม่ก็แป้งข้าวเจ้าผสมแป้งมัน แต่ Atlast Food Co สตาร์ทอัพจากนิวยอร์กได้นำเสนอทางเลือกใหม่ MyBacon เบคอนที่ผลิตจาก “ไมซีเลียม”กลุ่มเส้นใยเห็ดราโดยเลือกเพาะจากเห็ดแชมปิญองหรือเห็ดกระดุมสีขาวเอเบ็น ไบเออร์ ซีอีโอ Atlast Food Coเล่าว่าเพื่อฉีกแนวจากสินค้าอื่นในตลาดผลิตภัณฑ์ Plant-based เขาจึงมุ่งที่ Whole Cuts หรือผลิตเนื้อสัตว์ (เลียนแบบ) ตัดแต่งชิ้นใหญ่ โดยผลิตภัณฑ์ Whole Cuts ของบริษัทได้จากการเพาะเส้นใยเห็ดราให้กลายเป็นแผ่นหรือก้อนขนาดใหญ่ ก่อนนำมาตัดแต่งเป็นชิ้นแล้วส่งให้บรรดาบริษัทผู้ผลิตอาหารนำไปปรุงเป็นเมนูต่างๆ เป็นการดำเนินธุรกิจแบบ B2B กระทั่งล่าสุด Atlast Food Co ได้ขยายโมเดลธุรกิจไปสู่การค้าปลีกด้วย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ MyEats นำร่องด้วย MyBacon เบคอน รมควันที่เกิดจากการแปรรูปเห็ด เป็นการสร้างความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ในตลาดเนื่องจากมีลักษณะใกล้เคียงเนื้อจริงๆ และมีโปรตีนสูงกว่า เบคอนจากเห็ดวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าปลีกทั่วไป ผู้บริหาร Atlast Food Co ตั้งเป้าจะทำยอดขายโดยคิดเป็นน้ำหนัก 100 ล้านปอนด์ (ราว 50 ล้านกิโลกรัม) ใน 5 ปีข้างหน้าที่มา https://bit.ly/2QjW8OC

เปิดตัวได้เพียง 5 ปี Mooala ฟู้ดเทคสตาร์ทอัพจากเมืองดัลลัส รัฐเทกซัสของอเมริกาก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้วยผลิตภัณฑ์นมออร์แกนิกจากพืช ที่ขึ้นชื่อสุดคือ นมจากกล้วยนมอัลมอนด์ และนมข้าวโอ๊ต ล่าสุด Mooalaเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Keto Mylk เป็นนมจากพืชที่ตอบโจทย์ผู้รับประทานอาหารคีโต ถือเป็นแบรนด์แรกที่ผลิตนมคีโตออกมาเพื่อให้ Keto Mylk มีรสชาติเข้มข้น บริษัทได้คิดค้นสูตรความอร่อยโดยมีหัวกะทิ และน้ำมันมะพร้าวเป็นส่วนประกอบ โดยผลิตภัณฑ์ผ่านการรับรองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกมีคาร์โบไฮเดรตน้อยกว่า 1 กรัม น้ำตาล0 เปอร์เซ็นต์ และมีกรดไขมันอิ่มตัวสายกลาง(MCTs) 5 กรัมต่อเสิร์ฟ นอกจากนั้น ยังปลอด GMO ปราศจากกลูเตน และถั่วเหลือง ในปริมาณ1 เสิร์ฟจะให้พลังงานเพียง 70 แคลอรีKeto Mylk เปิดตัวเข้าสู่ตลาดด้วย 4 รสชาติได้แก่ รสซินนามอนโรล รสช็อกโกแลตชิปรสวานิลลาครีม และรสดั้งเดิม โดยมีทั้งแบบสเตอริไลซ์ และแบบพาสเจอไรซ์ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์นมที่ประกอบด้วยไขมันคุณภาพสูงจากมะพร้าว จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้รับประทานอาหารคีโต และเป็นการเติมเต็มช่องว่างในตลาดเนื่องจากยังไม่มีบริษัทใดผลิตนมคีโตจากพืชมาก่อน ผลิตภัณฑ์นมคีโตภายใต้แบรนด์ Keto Mylk จำหน่ายผ่านเว็บไซต์บริษัท และจะกระจายตามร้านค้าปลีกและซูเปอร์มาร์เก็ตราว 1,000 แห่งทั่วสหรัฐฯที่มา https://prn.to/3ehz76Z

ใครจะคิดว่าส่วนผสมในปริมาณที่เหมาะสมของกะหล่ำปลีและสับปะรดจะทำให้เกิดรสชาติเหมือนน้ำนม และนั่นก็เป็นผลงานการคำนวณสูตรโดยปัญญาประดิษฐ์หรือ AI และเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาโดย NotCo สตาร์ทอัพด้านอาหารจากประเทศชิลีที่กำลังเติบโตเร็วสุดในแถบละตินอเมริกา และมีเป้าหมายเปลี่ยนผลิตภัณฑ์อาหารจากสัตว์ที่ได้รับความนิยมให้เป็น Plant-based อาหารจากพืชทั้งหมด สินค้าของ NotCo ที่วางจำหน่ายแล้วในชิลี บราซิล และอาร์เจนตินา ประกอบด้วย1.Eggless มายองเนสที่ทำจากพืช2.NotBurger ไส้เบอร์เกอร์ (แพตตี้) ที่ทำจากถั่วลันเตา3.NotIcecream ไอศกรีมที่ไม่มีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และ4.NotMilk โดยทั่วไป ผลิตภัณฑ์นมจาก พืชมักใช้วัตถุดิบพื้นๆ เช่น ข้าวโอ๊ตอัลมอนด์ ถั่วเหลือง และถั่วชนิดต่างๆแต่สำหรับ NotMilk ซึ่งพัฒนาสูตรโดย AI ได้ผสมผสานจากพืชหลายชนิด เช่น โปรตีนจากถั่วลันเตา เนยมะพร้าว ใยอาหารจากอะคาเซีย และชิโครี และอีก 2 วัตถุดิบที่ไม่คาดคิดว่าจะผสมมาด้วยคือกะหล่ำปลีกับสับปะรดทั้งหมดทั้งปวง เมื่อเขย่ารวมกันแล้วทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงกับน้ำนมจากสัตว์มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรส หรือกลิ่น เรียกว่าผลตอบรับจากตลาดค่อนข้างดีเลยทีเดียว ล่าสุด NotCoประสบความสำเร็จในการระดมทุน85 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในซีรีส์ซี จึงเตรียมขยายไปยังประเทศอื่น รวมถึง เปรูโคลอมเบีย เม็กซิโก และสหรัฐฯที่มา https://bit.ly/2QGxF5R

ขั้นกว่าของสาย Plant-based คือเทรนด์ Adaptogens ซึ่งเป็นเทรนด์เครื่องดื่มสุขภาพที่กำลังมาแรงในยุคนี้ เพราะยุคนี้ใครๆ ต่างก็หันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น หลีกหนีการบริโภคเนื้อสัตว์ อีกทั้งยังสะสมความเครียดไว้ในร่างกายเต็มไปหมด ทั้งเครียดจากไวรัส เครียดจากเศรษฐกิจ เทรนด์ Adaptogens ในสหรัฐอเมริกาตามมาติดๆ กับการกิน Plant-based เทรนด์ดังกล่าวจะเน้นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมหลักจากน้ำเห็ดและสมุนไพรต่างๆ ด้วยเหตุผลหลักคือการปรับสมดุลให้กับร่างกาย ช่วยลดความเครียด ทำให้สุขภาพแข็งแรง ซึ่งสมุนไพรที่ใช้ในการทำก็มีทั้งใบกะเพราโสมอินเดีย เห็ดหลินจือ เป็นต้น ใครที่เป็นสาย Plant-based ห้ามพลาดเทรนด์นี้

นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า FreshQ เกิดมาเพื่อธุรกิจ สาย Plant-based โดยเฉพาะ นวัตกรรมดังกล่าวเป็นการถนอมพืชผักของคุณให้คงความสด กรอบ อร่อย มีอายุยาวนานกว่าพืชผักทั่วไปด้วยการใช้การหมักแบบเฉพาะตัวของ FreshQ โดยจะมีการคัดสรรแบคทีเรียที่ดีมาต่อสู้กับแบคทีเรียที่ไม่ดีคล้ายกับกระบวนการผลิตโยเกิร์ต ซึ่งทาง FreshQ ได้มีการจับมือกับธุรกิจ Plant-based ต่างๆ เพื่อทำให้วัตถุดิบจาก ธรรมชาติของพวกเขาสดใหม่ ลด Food Waste จากการเน่าเสียของวัตถุดิบ ช่วยควบคุมความอร่อย ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้กินผักสดๆ ที่เพิ่งเด็ดจากต้นเลยทีเดียว

วันนี้เป็นสายวีแกน อีกวันกินเนื้อสัตว์ บางวันเน้นผัก บางวันกินปลา นี่คือผู้บริโภคอีกหนึ่งกลุ่มที่ไม่ยึดติดกับการกินแบบใดแบบหนึ่ง และคนทำธุรกิจสาย Plant-based ห้ามทิ้งพวกเขาเด็ดขาด เราเรียกคนกลุ่มนี้ว่า Flexitarianism ซึ่งพวกเขาจะเน้นการกินแบบ Plant-based เป็นหลัก แต่บางครั้งก็อาจจะกินเนื้อสัตว์บ้าง โดยมีตัวเลขจาก Nestléé ระบุว่า กว่า 87 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคอเมริกันที่เป็นชาววีแกนและคนที่กินเนื้อสัตว์มักจะไดเอทด้วยการกิน Plant-based ส่วนผู้บริโภค 50 เปอร์เซ็นต์ในอังกฤษเป็น Flexitarianism เนื่องจากความต้องการของคนยุคใหม่นั้นค่อนข้างยืดหยุ่น ไม่ได้ยึดติดและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา